นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน อเวนเจอร์ แพลนเนอร์ จำกัด (“บริษัท”)
เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงกำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) เพื่อใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับ

  1. ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และช่องทางออนไลน์อื่นๆ ของบริษัท
  2. บุคคลธรรมดา ทั้งที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต (เรียกรวมว่า “ลูกค้า”)
  3. นายหน้า ผู้แนะนำการลงทุน ที่ปรึกษาทางการเงิน นักวางแผนการเงิน และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า

(เรียกรวมกันทั้งหมดว่า “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”)

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อธิบายถึงวัตถุประสงค์และวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ซึ่งใช้บังคับกับทั้งธุรกิจ เว็บไซต์ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) กิจกรรมและนิทรรศการ ช่องทางการติดต่อทางออนไลน์ และวิธีการใดๆ ที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

1.1 ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลซึ่งสามารถระบุถึงตัวบุคคลธรรมดาซึ่งมีชีวิตอยู่ได้ โดยอาจเก็บรวบรวมด้วยวิธีการต่างๆ จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยตรง อาทิ จากการใช้บริการหรือจากเว็บไซต์ของบริษัท หรือจากแหล่งอื่นๆ โดยอ้อม เช่น สื่อสังคมแพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่นๆ และผ่านบริษัทในเครือ ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานราชการ ทั้งนี้ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

1.1.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ เพศ วันเกิด สถานภาพการสมรส ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เป็นต้น) ลายมือชื่อ การบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ รูปถ่าย ทะเบียนบ้าน และข้อมูลประจำตัวอื่นๆ

1.1.2 ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล และรหัสประจำตัวสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

1.1.3 ข้อมูลบัญชีและข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขและประเภทของบัญชี ข้อมูลพร้อมเพย์ สินทรัพย์และหนี้สิน รายได้และค่าใช้จ่าย ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลการสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์

1.1.4 ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ประเภทของผลิตภัณฑ์ ประวัติการซื้อขายและยอดคงเหลือ ประวัติการชำระเงินและการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ของท่าน งบการเงิน ข้อมูลการซื้อขาย ประวัติการผิดนัด

1.1.5 ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน เช่น หมายเลขอินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP Address) เว็บบีคอน (Web Beacon) ล็อก (Log) ไอดีอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ Single Sign-On (SSO) การเข้าสู่ระบบ (Login Log) คุกกี้ (Cookies) ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ เวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเพจ ประวัติการค้นหา ข้อมูลที่เรียกดู ประเภทและเวอร์ชั่นของเว็บเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลาและสถานที่ตั้ง ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเว็บเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่นๆ บนอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์ม

1.1.6 รายละเอียดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อและหมายเลขบัญชี (Account Identifiers) ชื่อผู้ใช้ เป้าหมายการลงทุน ความรู้และประสบการณ์การลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Tolerance)

1.1.7 ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับบริษัท เช่น ข้อมูลที่ท่านได้ให้แก่บริษัทในสัญญา แบบฟอร์มหรือการสำรวจ หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือกิจกรรมทางอื่นๆ กับบริษัท

1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือตามที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ โดยบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

1.2.1 ข้อมูลชีวภาพ เช่น ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ
1.2.2 ข้อมูลสุขภาพ เช่น ภาวะบกพร่องทางสุขภาพ หรือความพิการ
1.2.3 ประวัติอาชญากรรม
1.2.4 ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ ซึ่งแสดงอยู่ในเอกสารประจำตัว เช่น เชื้อชาติ และศาสนา

2. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

2.1 วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆ

2.1.1 ตามความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  • การติดต่อกับท่านก่อนเข้าทำสัญญากับบริษัท และ/หรือเพื่อประมวลผลคำขอเปิดบัญชี การรักษาสภาพของบัญชี และการดำเนินการและการปิดบัญชีรวมถึงการยืนยันตัวบุคคล
  • การให้บริการจากบุคลากรต่างๆ เช่น ผู้แนะนำการลงทุน เจ้าหน้าที่การตลาด ที่ปรึกษาทางการเงิน นักวางแผนการเงิน เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์การลงทุน การเสนอทางเลือกให้แก่ท่าน ทั้งจากบริษัทและบุคคลภายนอก
  • การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การให้ข้อมูล ข้อเสนอพิเศษ และเอกสารส่งเสริมการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทและบุคคลภายนอก

2.1.2 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

  • การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นๆ หรือหน่วยงานกำกับดูแล (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ)
  • การป้องกันและให้การบริการอย่างเหมาะสมแก่ลูกค้าที่มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะบกพร่องทางสุขภาพและความพิการ ในการเข้าทำธุรกรรมบางประเภทด้วยตนเอง เพื่ออำนวยความสะดวกและควบคุมความเสียหายใดๆ

2.1.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและบุคคลภายนอก เพื่อให้เท่าเทียมและสอดคล้องกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  • การทำวิจัย การวางแผน การวิเคราะห์ทางสถิติ การพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ และการให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันแก่ลูกค้าเกี่ยวกับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทและบุคคลภายนอกเป็นครั้งคราว
  • การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท และการบริหารจัดการบัญชีของท่านที่มีอยู่กับบริษัท รวมทั้งการจัดการ หรือสอบสวนเรื่องร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาทใดๆ
  • การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท การควบคุมและตรวจสอบภายใน การดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและขั้นตอนของบริษัท ที่อาจจำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม การวิเคราะห์ และบริหารความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบ การเงินและการบัญชี ระบบต่างๆ และความต่อเนื่องทางธุรกิจ การป้องกัน ตรวจจับ และสอบสวนการฉ้อโกง การประพฤติมิชอบ หรือกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่
  • การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ภายใต้สัญญาใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ภายใต้สัญญาที่บริษัททำหน้าที่เป็นตัวแทน

2.1.4 เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

2.1.5 เพื่อประโยชน์สาธารณะ สำหรับภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ

2.2 วัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นประโยชน์แก่ท่าน ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ ดังนี้

เพื่อการติดต่อสื่อสารทางการตลาด และนำเสนอข้อเสนอหรือเอกสารส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทและบุคคลภายนอกซึ่งไม่อาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น

ทั้งนี้ ท่านสามารถถอนความยินยอมของท่าน ณ เวลาใดก็ได้ โดยติดต่อบริษัท หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่ระบุไว้ใน ข้อ 10 เพื่อถอนความยินยอม การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่านตามความยินยอมของท่านก่อนที่จะขอถอนความยินยอมนั้น

3. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ตามนโยบายส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก ทั้งในและนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษานโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อทราบถึงวิธีการที่บุคคลภายนอกนั้นทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้

3.1 บริษัทในเครือ โดยที่บริษัทมีบริษัทในเครือ บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือของบริษัทเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น

3.2 ผู้ให้บริการของบริษัท บริษัทอาจใช้บริการจากผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน ซึ่งบริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการเหล่านี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวแทนการวิจัย ผู้ให้บริการการวิเคราะห์ ตัวแทนการสำรวจ ตัวแทนด้านการตลาด สื่อโฆษณาและการติดต่อสื่อสาร ผู้ให้บริการชำระเงิน และผู้ให้บริการด้านธุรการและการดำเนินงานในการให้บริการเหล่านี้  ในการให้บริการดังกล่าวนั้น ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการนั้นเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และผู้ให้บริการดังกล่าวมีพันธะที่จะต้องไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด และบริษัทจะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าผู้ให้บริการทุกรายที่บริษัททำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้อย่างปลอดภัย

3.3 พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการใดที่ได้รับจากบริษัท ซึ่งรวมถึง ตัวกลาง เช่น บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นบุคคลภายนอก

3.4 บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายอนุญาต บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลภายนอก เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และ/หรือการปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย

3.5 ที่ปรึกษาวิชาชีพและบุคคลภายนอก เช่น ผู้รับโอน ผู้รับแปลงหนี้ หรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการโอนธุรกิจ

4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ

บริษัทอาจประมวลผล และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจจะไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่างๆ เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นกระทำอย่างมีมาตรฐานสูงและมีความปลอดภัย และบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม โดยการโอนข้อมูลนั้นจะกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย

5. ระยะเวลาในการที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้นหากต้องปฏิบัติตามกฎหมาย

6. ข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ
บริการของบริษัทไม่ได้มีเป้าหมายสำหรับลูกค้าที่เป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ และบริษัทไม่มีเจตนาจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลดังกล่าวตามกฎหมาย ถ้าท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ซึ่งประสงค์จะใช้บริการของบริษัท ท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจกระทำการแทนก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท

6.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น คู่สมรส บุตร สมาชิกในครอบครัวของท่าน ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้รับผลประโยชน์ ผู้ที่ท่านกำหนดให้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน ไม่ว่าข้อมูลที่ให้นั้นเป็น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หรือหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลเหล่านั้น ท่านต้องแน่ใจว่าท่านมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวแก่บริษัท และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้

7. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

7.1 สิทธิในการเข้าถึง ท่านสามารถขอเข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน

7.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ท่านสามารถขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้ว และสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และขอส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

7.3 สิทธิในการคัดค้าน ท่านสามารถคัดค้านวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในบางกิจกรรมซึ่งระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

7.4 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูล ท่านสามารถขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อีกต่อไป

7.5 สิทธิในการจำกัด ท่านสามารถจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของบริษัทไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบริษัทไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อีกต่อไป

7.6 สิทธิในการแก้ไขให้ถูกต้อง ท่านสามารถขอให้มีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน

7.7 สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านสามารถถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัท เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับการถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน

7.8 สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน ท่านสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้ โดยท่านสามารถดำเนินการใดๆ ตามสิทธิดังข้างต้น และสามารถติดต่อบริษัท หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ตามที่ระบุใน ข้อ 10

8. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้

“คุกกี้” (Cookies) คือ ข้อมูลขนาดเล็กที่จะถูกส่งไปยังเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทโดยเว็บเบราว์เซอร์จะจัดเก็บข้อมูลและส่งกลับมายังเว็บไซต์ของบริษัท ในครั้งต่อไปที่ท่านเข้าชมเว็บไซต์อีก ซึ่งเป็นการช่วยจดจำเบราว์เซอร์ของท่าน รวมถึงการเข้าใช้งานและการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ นอกจากนี้อาจช่วยในการรวบรวมข้อมูลสถิติการใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัท โดยบริษัทจะนำสถิติการใช้งานเหล่านั้นมาพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถลบและปฏิเสธการใช้งานคุกกี้บนเว็บไซต์ของบริษัทโดยตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน ทั้งนี้ อาจส่งผลให้คุณสมบัติการใช้งานบางอย่างของเว็บไซต์บริษัททำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวน เปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่าน/ผู้ใช้บริการ อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างละเอียดและทบทวนเป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบ หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ บริษัทจะทำการประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์โดยเร็วที่สุด

10. ช่องทางการติดต่อบริษัท

หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิใดๆ หรือมีข้อสงสัยซักถาม ตลอดจนเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือฝ่ายกำกับดูแล

อีเมล์ : compliance@avenger-planner.com
โทรศัพท์ : 02-430-6689 กด 2
ที่อยู่ : อาคารศูนย์การค้าเดอะวอล์ค สาขาเกษตรนวมินทร์ ห้องเลขที่ ทีเคเอ็นอีบี1เอ-006 ชั้นที่ บี1
เลขที่ 511/1 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230


ปรับปรุงล่าสุด 4 ส.ค. 65