
รายได้หลายทาง : บริหารเวลาและการเงินให้ปัง ไม่พังเพราะความวุ่นวาย
09/06/2025
เผยแพร่เมื่อ : 16 มิถุนายน 2568
การซื้อบ้านเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่และมีผลกระทบต่อการเงินในระยะยาว หลายคนอาจมองว่าการซื้อบ้านควรสนใจแค่ความต้องการของผู้ซื้อเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงสถานการณ์ของเราอาจเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต เช่น ต้องย้ายที่ทำงาน ขยายครอบครัว หรือเปลี่ยนแผนชีวิต
หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นและต้องการขายบ้าน การวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ตอนซื้อ จะช่วยให้การขายเป็นไปอย่างราบรื่น ได้ราคาดี และลดความเสี่ยงขาดทุนได้
หลักการสำคัญ คือต้องเผื่อถึงความต้องการของผู้ซื้อในอนาคตด้วย บ้านที่ขายง่ายคือบ้านที่มีคุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่ต้องการ ดังนั้น การเลือกบ้านต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าและความสามารถในการขายต่อ
เรามาดูประเด็นที่ต้องพิจารณากันครับ
1. เลือกทำเลที่ดี
ทำเลเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการกำหนดมูลค่าของบ้าน บ้านที่อยู่ในทำเลที่ดีจะขายได้ง่ายและราคาสูงกว่าบ้านที่อยู่ในทำเลด้อยกว่า
- ควรเลือกทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้ถนนใหญ่ ทางด่วน หรือรถไฟฟ้า
- ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด ร้านค้า และสวนสาธารณะ
- อยู่ในย่านที่มีแนวโน้มพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น มีโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคใหม่ ๆ หรือเป็นพื้นที่ที่กำลังเติบโต
- ความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ควรเป็นย่านที่ไม่ค่อยมีอาชญากรรม หรือใกล้แหล่งเสื่อมโทรม
ตัวอย่าง 1: บ้านในทำเลทอง สมมุติว่าเป็นบ้านเดี่ยวในซอยสุขุมวิท 64
- เดินทางสะดวก: อยู่ห่างจาก BTS ปุณณวิถีเพียง 500 เมตร ขึ้นทางด่วนก็ง่าย
- สิ่งอำนวยความสะดวก: ใกล้ห้างเซ็นทรัลบางนา โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงเรียนบางกอกพัฒนา และตลาดอุดมสุข
- แนวโน้มพัฒนา: มีโครงการคอนโดใหม่ ๆ กำลังขึ้นหลายแห่ง และมีโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่กำลังวางแผนเชื่อมต่อ
- ความปลอดภัย: เป็นหมู่บ้านปิดมีประตูกั้น (gated community) รปภ. รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
บ้านแบบนี้โอกาสขายต่อได้ง่าย มีโอกาสราคาขึ้น และเป็นที่ต้องการของทั้งคนอยู่อาศัยและนักลงทุน
ตัวอย่าง 2: บ้านในทำเลด้อยกว่า สมมุติว่าเป็นทาวน์เฮ้าส์ชานเมือง ห่างจากถนนใหญ่เกิน 5 กม.
- เดินทางลำบาก: ต้องขับรถเข้าซอยลึก ไม่มีขนส่งสาธารณะผ่าน
- สิ่งอำนวยความสะดวก: ต้องขับรถ 20 นาทีถึงห้าง ไม่มีโรงเรียนดี ๆ ใกล้บ้าน
- แนวโน้มพัฒนา: ไม่มีโครงการใหม่ ๆ หรือการขยายโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่
- ความปลอดภัย: ไฟถนนไม่เพียงพอ เคยมีข่าวอาชญากรรมในพื้นที่
บ้านแบบนี้ ราคาถูกกว่า แต่ขายต่อยาก และราคามีแนวโน้มไม่ขึ้นมากนัก
2. เลือกโครงการที่มีคุณภาพและภาพลักษณ์ดี
โครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมแต่ละโครงการมีคุณภาพและความน่าสนใจแตกต่างกัน
- ควรเลือกโครงการจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียง มีประวัติการพัฒนาโครงการที่ดี บ้านสร้างเสร็จตรงเวลา งานก่อสร้างดี บริการหลังการขายก็มักจะดีด้วย
- ดูรีวิวจากลูกบ้าน เกี่ยวกับคุณภาพการก่อสร้าง การบริหารจัดการ และบริการหลังการขาย เพื่อให้อุ่นใจและมั่นใจก่อนการตัดสินใจ
โครงการที่มีภาพลักษณ์ดีและการดูแลที่เป็นระบบมักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และขายต่อได้ง่ายกว่า
3. เลือกแบบบ้านที่ตอบโจทย์ตลาดกว้าง
แบบบ้านมีผลต่อความต้องการของตลาด บ้านที่มีขนาดเหมาะสมและฟังก์ชันที่ยืดหยุ่นมักได้รับความสนใจมากกว่า
- บ้านที่มี 2-3 ห้องนอนเหมาะกับทั้งครอบครัวขนาดเล็กและขนาดกลาง จึงขายได้ง่ายกว่าบ้านที่มีขนาดใหญ่เกินไป ในรูปแบบของสังคมยุคใหม่
- การออกแบบที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยใหม่
- มีพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว เช่น มีพื้นที่เก็บของที่เพียงพอ ห้องน้ำที่ใช้งานสะดวก และห้องนั่งเล่นที่โปร่งโล่ง และสามารถปรับการใช้สอยได้อย่างสะดวก
4. ไม่ต่อเติมหรือตกแต่งจนปรับแก้ยาก
หลายคนซื้อบ้านไปแล้วมักต่อเติมหรือปรับปรุงตกแต่งเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตนเอง แต่หากการต่อเติมมากเกินไปอาจทำให้บ้านขายยากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการต่อเติมที่ผิดกฎหมายหรือขัดกับข้อบังคับของโครงการ เช่น การขยายพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
- การตกแต่งภายในควรอยู่ในสไตล์ที่เป็นกลาง ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป เพราะอาจไม่ตรงกับรสนิยมของผู้ซื้อรายใหม่
- เลือกวัสดุและดีไซน์ที่มีคุณภาพและเป็นที่นิยมทั่วไป เพื่อให้บ้านดูดีและดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ
ตัวอย่าง 3: ต่อเติมผิดกฎหมาย ทำให้ขายไม่ได้ คุณบีต่อเติมครัวหลังบ้านโดยต่อออกไปเกินแนวเขตที่ดิน และไม่ได้ขออนุญาตจากนิติบุคคล บ้านแบบนี้ ผู้ซื้อต่อกู้แบงก์ไม่ผ่าน เพราะบ้านไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ขายไม่ออก
ตัวอย่าง 4: ตกแต่งฉูดฉาดเกินไป คุณโจแต่งบ้านสไตล์หลุยส์ ใช้สีทองทั้งหลังและบิวท์อินลายจัดจ้าน บ้านแบบนี้ ผู้ซื้อต่อส่วนใหญ่มองว่า “เกินไป” และไม่อยากเสียเงินรีโนเวทใหม่
ตัวอย่าง 5: รีโนเวทอย่างมีรสนิยม คุณแอนรีโนเวทบ้านด้วยโทนสีขาว-เทา ใช้วัสดุมาตรฐานและดีไซน์โมเดิร์นเรียบง่าย บ้านแบบนี้จะดูใหม่ ดึงดูดใจคนส่วนใหญ่ ขายได้ไวและได้ราคาดี
5. วางแผนเรื่องราคาซื้อให้ดี
ราคาที่ซื้อมามีผลโดยตรงต่อการขายในอนาคต หากซื้อแพงเกินไป แม้จะถือไว้นานก็อาจขายขาดทุนได้
- ควรเปรียบเทียบราคา กับบ้านมือหนึ่งและบ้านมือสองในทำเลเดียวกันก่อนตัดสินใจ
- คำนวณต้นทุนทั้งหมด เช่น ค่าผ่อนบ้าน ดอกเบี้ย ค่าบำรุงรักษา และภาษีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- เลือกซื้อในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะที่เหมาะสม เช่น ช่วงที่มีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนหรือดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านต่ำ
ตัวอย่าง 6: คุณเอกซื้อบ้านช่วงราคาพีค ไม่ได้วางแผนรอบด้าน
คุณเอกซื้อบ้านเดี่ยวหลังหนึ่งในปีที่ราคาบ้านกำลังพุ่งสูงสุด ราคาซื้ออยู่ที่ 7 ล้านบาท โดยไม่ได้เปรียบเทียบกับบ้านมือสองในละแวกเดียวกัน ซึ่งมีราคาประมาณ 5.5–6 ล้านบาท เท่านั้น
ผลคือต้องผ่อนเดือนละเกือบ 40,000 บาท อีก 5 ปีต่อมา เมื่อต้องการขาย พบว่าราคาตลาดตกลง และผู้ซื้อเสนอเพียง 6 ล้านบาท เท่านั้น ทำให้ขาดทุนจากราคาขาย และยังต้องแบกรับต้นทุนดอกเบี้ยและค่าบำรุงรักษาที่จ่ายไปแล้ว
ตัวอย่าง 7: คุณแนนรอจังหวะดี แล้วซื้อบ้านในราคาคุ้มค่า
คุณแนนเล็งบ้านทาวน์โฮมย่านรังสิต ราคาโครงการเปิดใหม่อยู่ที่ 2.8 ล้านบาท แต่รอช่วงที่รัฐบาลมีมาตรการ ลดค่าธรรมเนียมโอน 1% และ ดอกเบี้ยบ้านต่ำ จึงตัดสินใจซื้อ
โดยเปรียบเทียบกับบ้านมือสองแถวเดียวกันแล้วราคาพอ ๆ กัน ได้อัตราผ่อนต่ำและค่าใช้จ่ายรวมไม่เกินงบ และอีก 4 ปี ราคาตลาดขึ้นเป็น 3.1 ล้านบาท เพราะมีรถไฟฟ้าผ่านย่านนี้ ทำให้ขายต่อได้กำไร และไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยสูง
6. ดูแลบ้านให้อยู่ในสภาพดี
บ้านที่ดูแลอย่างดีจะขายได้ง่ายกว่าและได้ราคาดีกว่า
- ซ่อมแซมส่วนที่เสียหายอย่างสม่ำเสมอ เช่น หลังคารั่ว สีลอก หรือพื้นชำรุด หากปล่อยทิ้งไว้บ้านจะทรุดโทรมเร็วกว่าเดิม
- ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ และรักษาภูมิทัศน์รอบบ้านให้น่ามอง
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้า-ประปาให้อยู่ในสภาพดี
บทสรุป
แม้ไม่ได้ซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไร แต่การวางแผนล่วงหน้า หากมีความจำเป็นที่ต้องขาย จะช่วยให้ขายได้ง่ายและได้ราคาดี
การเลือกทำเลและโครงการที่มีศักยภาพ เลือกแบบบ้านที่ตรงกับความต้องการของตลาด ดูแลบ้านให้อยู่ในสภาพดี และซื้อมาในราคาที่เหมาะสม จะช่วยให้การขายเป็นไปอย่างราบรื่นและอาจทำกำไรได้
ซึ่งการคิดเผื่ออนาคตแบบนี้นั้น เป็นสิ่งที่พวกเรานักวางแผนการเงิน บลป. Avenger Planner ให้ความสำคัญ และพร้อมเป็นเพื่อนคู่คิด ช่วยคำนวณวางแผน โดยเฉพาะเรื่องตัวเลขการเงินต่างๆ ให้กับท่านได้นะครับ เพราะแผนการซื้อบ้าน หรือกระทั่งขายบ้านนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของ "แผนการเงินแบบองค์รวม" ซึ่งเป็นบริการหลักของพวกเราครับ