
ทำงบประมาณเงินสดหลังเกษียณด้วยตนเอง (พร้อมไฟล์ตัวอย่าง)
10/08/2025
เผยแพร่เมื่อ : 27 สิงหาคม 2568
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF เป็นเครื่องมือที่หลายคนเลือกใช้เพื่อวางแผนการเงินในวัยเกษียณ เพราะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่เงื่อนไขที่ซับซ้อนก็ทำให้สับสนว่า จะขายกองทุนอย่างไรให้ถูกเงื่อนไข บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักแนวทางกันค่ะ
จะตัดสินใจได้ต้องเข้าใจเงื่อนไขทางภาษีก่อน
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ขอแยกเงื่อนไขของ RMF เป็น 2 ฝั่ง ดังนี้ค่ะ
1. เงื่อนไขฝั่ง ขาซื้อ เพื่อ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี มีเงื่อนไขดังนี้
- ลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือ ปีเว้นปี
เว้นแต่มีอายุครบ 55 และถือหน่วยลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีแล้ว จะไม่ลงทุนต่อก็สามารถทำได้ - อายุและระยะเวลาถือครอง
ในวันที่ขายต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และถือหน่วยลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี (แม้รายละเอียดจะเขียนเป็นการขาย แต่ขอให้เข้าใจว่าเป็นเงื่อนไขฝั่งขาซื้อที่ทางกรมสรรพากรกำหนดไว้นะคะ)
หมายเหตุ จำนวนเงินที่ใช้ลดหย่อนต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีในปีนั้น และเมื่อรวมกับสิทธิ์ลดหย่อนในกลุ่มเกษียณอื่นๆ แล้ว อาทิ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. และประกันบำนาญ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
หากผิดเงื่อนไขฝั่ง ขาซื้อ จะต้อง คืนภาษีเงินได้ที่ได้ใช้ลดหย่อน RMF ย้อนหลัง 5 ปี โดยให้ทำการยื่นแบบภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ผิดเงื่อนไข จะได้รับการยกเว้นไม่เสียเงินเพิ่ม แต่หากยื่นหลังจากนั้นจะต้องคิดเงินเพิ่มด้วย
2. เงื่อนไขฝั่ง ขาขาย เพื่อ ได้รับการยกเว้นภาษีกำไรจากการขาย มีเงื่อนไขข้อเดียว คือ
- ระยะเวลาถือครอง
ต้องถือหน่วยลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ซื้อกองทุนครั้งแรก โดยกำไรจากส่วนต่างของราคาเมื่อขาย RMF จะได้รับการยกเว้นภาษี
หากผิดเงื่อนไขฝั่ง ขาขาย จะต้อง นำกำไรจากส่วนต่างของราคาเมื่อขาย RMF นั้นมารวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณยื่นเสียภาษี
ทั้งนี้เงื่อนไขในการนับ ระยะเวลาถือครอง คือ ให้นับเฉพาะ ปีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ซื้อ RMF เท่านั้นด้วยค่ะ
เมื่อขาย RMF ต้องขายทั้งหมดไหม ?
คำตอบคือ ไม่จำเป็นต้องขายออกทั้งหมด เมื่อครบตามเงื่อนไขทางภาษีแล้ว สามารถทยอยขายบางส่วนได้ และ ทยอยขายหลายๆ ครั้ง หรือ หลายๆ ปีได้ค่ะ
แต่เมื่อได้มีการขายออกไปแล้ว และยังต้องการซื้อ RMF ต่ออีก เพื่อการลดหย่อนภาษีเพิ่มอีกนั้น จะมีข้อควรระวังดังนี้ค่ะ
- ต้องนับระยะเวลาถือครองใหม่
RMF ที่ซื้อใหม่ จะต้องถูกนับระยะเวลาเงื่อนไขการถือครอง 5 ปีใหม่อีกครั้ง (ส่วนเกณฑ์อายุไม่ต้องนับแล้ว เนื่องจากอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ไปแล้ว) - ต้องชี้แจงได้ว่า RMF ส่วนใดเป็นก้อนเก่า ส่วนใดเป็นส่วนที่ซื้อใหม่
หากหลังจากที่ซื้อ RMF เพิ่มแล้ว ยังมีการขาย RMF ชุดเดิมอีก จะต้องสามารถชี้แจงได้ว่าไม่ได้เป็นเงินก้อนเดียวกันชัดเจน เช่น อาจเลือกซื้อ RMF คนละกอง หรือคนละบลจ. เพื่อให้ง่ายต่อการชี้แจงกับสรรพากร เพราะหากไม่สามารถชี้แจงได้ ว่าเงินก้อนที่ขายออกไปหลังการซื้อครั้งใหม่นั้น คือเงิน RMF เดิม อาจเข้าข่ายเป็นการขายที่ผิดเงื่อนไข
ทั้งนี้เมื่อมีการขาย RMF ทาง บลจ. จะออกเอกสารให้ลูกค้า เพื่อยืนยันว่าการขายนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่ โดยเอกสารนี้จะใช้เป็นหลักฐานในการยื่นแสดงต่อกรมสรรพากร ในกรณีที่มีการเรียกตรวจสอบในภายหลัง
ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุน RMF ต่อเนื่องหลังเกษียณ
จากเงื่อนไขที่ต้องระวังข้างต้น เมื่อถึงวัยเกษียณแล้ว แต่ยังมีรายได้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีต่อนั้น ควรพิจารณาจากระยะเวลาที่ต้องการลงทุน RMF ต่อ ดังนี้
- กรณีที่ต้องการซื้อ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีต่ออีกไม่นานนัก (เช่น น้อยกว่า 5 ปี)
อาจยังไม่ต้องขาย RMF เดิมที่ครบตามเงื่อนไขแล้ว โดยหากต้องการลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนเนื่องจากเกษียณแล้ว ก็ให้สับเปลี่ยนกองทุนเดิมไปไว้ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำลง เช่น RMF ที่ลงทุนในตราสารตลาดเงิน หรือ ตราสารหนี้ เพื่อให้ RMF ที่ยังซื้อเพิ่มในช่วงหลังเกษียณนั้น ไม่ต้องเริ่มนับระยะเวลาในการถือครอง 5 ปีใหม่ เมื่อจะขายก็จึงขายแบบถูกเงื่อนไขพร้อมกันทีเดียวทั้งหมด
- กรณีที่ต้องการซื้อ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีต่ออีกนานหลายปี (เช่น ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป)
อาจขาย RMF เดิมที่ครบตามเงื่อนไขแล้วทั้งหมด เพื่อนำไปเตรียมไว้ใช้จ่ายหรือบริหารจัดการตามที่เหมาะสม จากนั้นจึงค่อยเริ่มซื้อ RMF ก้อนใหม่ โดยอาจเลือกกองทุน RMF จากคนละ บลจ. กับก้อนเดิมที่เพิ่งขายไปแล้ว เพื่อให้สามารถแยกเงินก้อนเก่าและใหม่ได้ชัดเจน กรณีที่เกิดเหตุต้องอธิบายกับทางสรรพากรค่ะ ทั้งนี้ RMF ส่วนที่ซื้อใหม่ต้องลงทุนต่อเนื่องให้ครบ 5 ปีด้วยจึงจะขายแบบถูกเงื่อนไขได้นะคะ
Case Study เพื่อเสริมความเข้าใจ
เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาดูตัวอย่าง 2 กรณีนี้นะคะ
#1 : คุณชินภัทร อายุ 55 ปี และเพิ่งเกษียณอายุ
ได้ซื้อ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีมาแล้วดังนี้ คือ ปี 2563 2564 (เว้นปี 2565) 2566 2567 ส่วนในปี 2568 (ซึ่งเป็นปีปัจจุบัน) คุณชินภัทรยังไม่ได้ซื้อ RMF
ทั้งนี้ คุณชินภัทรต้องการขาย RMF บางส่วน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายหลังเกษียณ
แนวทางการตัดสินใจ :
ขั้นแรกคุณชินภัทรต้องซื้อ RMF ปี 2568 ด้วย จึงจะครบเงื่อนระยะเวลาถือครอง 5 ปี เนื่องจากสามารถนับจำนวนปี ได้เฉพาะปีที่มีการซื้อ RMF เท่านั้น
จากนั้นในปี 2569 เมื่อนับอายุการถือครองได้ครบ 5 ปีเต็มแล้ว (นับแบบวันชนวัน) คุณชินภัทรสามารถขาย RMF ที่ซื้อตั้งแต่ปี 2563 ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องขายหมดทั้งพอร์ต แต่สามารถทยอยขายเป็นบางส่วนได้ตามความต้องการ
#2 : คุณแสงดาว อายุ 55 ปี
คุณแสงดาวลงทุน RMF มาตลอดหลายสิบปี ปีนี้อายุครบ 55 ปี แต่ต้องการทำงานต่ออีก 5 ปี และยังต้องการซื้อ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมในช่วงนั้น
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ประสงค์ที่จะขาย RMF ที่ครบเงื่อนไขบางส่วน โดยเฉพาะกองทุนที่มีกำไรออกไปก่อน ส่วนก้อนอื่นๆ นั้นวางแผนจะทยอยขายเมื่อเริ่มมีกำไร
แนวทางการตัดสินใจ :
หากคุณแสงดาวไม่ต้องการขาย RMF เดิมทั้งหมดก่อนที่จะซื้อ RMF ใหม่ อาจแบ่งการตัดสินใจออกเป็น 2 กรณีดังนี้
กรณี 1 : คุณแสงดาวยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน RMF เดิม
เพียงแค่ต้องการที่จะล็อคกำไรจากบางกองทุนเอาไว้ ก็สามารถสับเปลี่ยนกองทุนนั้นไปยังกองทุน RMF ที่ลงทุนในตราสารตลาดเงินซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ (ใกล้เคียงเงินสด) โดยยังถือครอง RMF ชุดเดิมทั้งหมดต่อไปแทนการขายออกมา
ส่วนกอง RMF ที่ซื้อเพิ่มเข้ามาใหม่นั้น ก็สามารถที่จะนับอายุการลงทุนต่อเนื่องจากของเดิมไปได้ และเมื่อต้องการใช้เงินจาก RMF เมื่อใด จึงค่อยขายออกมาทีเดียว หรือทยอยขายก็ได้
กรณี 2 : คุณแสงดาวมีความจำเป็นต้องใช้เงิน RMF เดิม
กรณีนี้ก็สามารถขาย RMF เดิม เฉพาะกองที่ต้องการออกไปได้ เพราะถูกเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว
ส่วนกอง RMF ที่จะซื้อใหม่ ก็ควรเลือกซื้อจาก บลจ. ใหม่ที่ไม่ทับซ้อนกับกองเดิมที่เพิ่งขายไป เพื่อให้สามารถแยกเงินก้อนใหม่ได้ชัดเจนว่าเป็นเงินคนละส่วนกัน จะช่วยให้หากต้องอธิบายกับเจ้าหน้าที่สรรพากรนั้น ทำได้ง่ายและชัดเจน
บทสรุป
จากรายละเอียดในบทความทั้งหมดนั้น เงื่อนไขของ RMF อาจจะดูเหมือนซับซ้อน แต่ก็จำเป็นต้องศึกษาไว้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเราเอง จึงหวังว่าทุกๆ ท่านจะได้ศึกษาไว้ใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ โดยหากมีข้อสงสัยประการใด ก็สามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ของ บลจ. หรือ ปรึกษากับเจ้าหน้าที่สรรพากรได้นะคะ
หรือหากต้องการผู้ช่วยในการวางแผน ไปจนถึงให้คำแนะนำในการดำเนินการแบบลงรายละเอียดเลย ก็สามารถใช้บริการจากนักวางแผนการเงิน บลป. Avenger Planner ได้เช่นกันค่ะ
เพราะ บริการวางแผนการเงินแบบองค์รวม ของเรานั้น ครอบคลุมถึงการดูแลและให้คำแนะนำเรื่องของการวางแผนเพื่อการเกษียณอายุทั้งหมด ซึ่งคำแนะนำเรื่อง RMF ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราช่วยได้ค่ะ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง